วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557

คำศัพท์เกี่ยวกับ Computer Security, Informarion Security ครั้งที่ 3

1. Virtual Private Network
Virtual Private Network เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายนอกอาคาร (WAN - Wide Area Network) เป็นระบบเครือข่ายภายในองค์กร ซึ่งเชื่อมเครือข่ายในแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน โดยอาศัย Internetเป็นตัวกลาง มีการทำ Tunneling หรือ การสร้างอุโมงค์เสมือนไว้รับส่งข้อมูล มีระบบเข้ารหัสป้องกันการลักลอบใช้ข้อมูล เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการความคล่องตัวในการติดต่อรับส่งข้อมูลระหว่างสาขา มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Private Network 
2. Public key
Public key คือ การเข้ารหัสและถอดรหัสโดยใช้กุญแจรหัสคนละตัวกัน การส่งจะมีกุญแจรหัสตัวหนึ่งในการเข้ารหัส และผู้รับก็จะมีกุญแจรหัสอีกตัวหนึ่งเพื่อใช้ในการถอดรหัส ผู้ใช้รายหนึ่งๆจึงมีกุญแจรหัส ค่าเสมอคือ กุญแจสาธารณะ (public key)และ กุญแจส่วนตัว (private key) ผู้ ใช้จะประกาศให้ผู้อื่นทราบถึงกุญแจสาธารณะของตนเองเพื่อให้นำไปใช้ในการเข้า รหัสและส่งข้อมูลที่เข้ารหัสแล้วมาให้ ข้อมูลที่เข้ารหัสดังกล่าวจะถูกถอดออกได้โดยกุญแจส่วนตัวเท่านั้น  
3. Digital Signatures
Digital Signatures หรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมาย ถึง กลุ่มของตัวเลขกลุ่มหนึ่งซึ่งแสดงความมีตัวตนของบุคคลคนหนึ่ง (กลุ่มตัวเลขนี้จะมีเลขที่ไม่ซ้ำกับใครเลย) ซึ่งจะใช้ในการแนบติดไปกับเอกสารใดๆ ก็ตามในรูปแบบของไฟล์ เจตนาก็เพื่อเป็นการยืนยันหรือรับรองข้อความที่ปรากฎอยู่ในไฟล์นั้นๆ ทำนองเดียวกับการลงลายมือชื่อด้วยหมึกลงบนกระดาษ เพื่อเป็นการยืนยันหรือรับรองข้อความที่    ปรากฎอยู่บนกระดาษนั่นเอง  
4. Decryption
Decryption คือ การถอดรหัสข้อมูล อย่างข้อมูลที่ถูกใส่รหัสไว้ ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาถอดรหัส เพื่อให้สามารถอ่านได้  
5. Key pair หรือคู่กุญแจ
Key pair หรือคู่กุญแจ หมาย ถึง ระบบการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล โดยผู้ส่งและผู้รับจะมีกุญแจคนละดอกที่ไม่เหมือนกัน ผู้ส่งใช้กุญแจดอกหนึ่งในการเข้ารหัสข้อมูลที่เรียกว่า กุญแจสาธารณะ (Public key) ส่วนผู้รับใช้กุญแจอีกดอกหนึ่งในการถอดรหัสข้อมูลที่เรียกว่า กุญแจส่วนตัว (Private Key) ซึ่งระบบกุญแจคู่นี้เองเป็นระบบกุญแจพื้นฐานที่นำมาประยุกต์ใช้กับระบบ PKI  
6. Decryption
Decryption คือ การถอดรหัสข้อมูล อย่างข้อมูลที่ถูกใส่รหัสไว้ ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาถอดรหัส เพื่อให้สามารถอ่านได้  
7. Encryption
Encryption คือ  การเข้ารหัส หรือการแปลงข้อมูลให้เป็นรหัสลับ ไม่ให้ข้อมูลความลับนี้ถูกอ่านได้ โดยบุคคลอื่น แต่ให้ถูกอ่านได้โดยบุคคลที่เราต้องการให้อ่านได้เท่านั้น โดยการนำเอาข้อความเดิมที่สามารถอ่านได้ (Plain text,Clear Text) มาทำการเข้ารหัสก่อน เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อความเดิมให้ไปเป็นข้อความที่เราเข้ารหัส (Ciphertext) ก่อน ที่จะส่งต่อไปให้บุคคลที่เราต้องการที่จะติดต่อด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นสามารถที่จะแอบอ่านข้อความที่ส่งมาโดยที่ข้อ ความที่เราเข้ารหัสแล้วซึ่งทำได้โดยใช้โปรแกรม  
 8. Cryptography  
Cryptography หรือ ระบบการรหัส หมายถึง ระบบที่ผู้ส่งข้อความเข้ารหัส (Encrypt) เปลี่ยนแปลงข้อมูล จากข้อความปกติ (Plain Text) ไปเป็นข้อความที่เข้ารหัส (Cipher text) หลังจากนั้นจึงส่งข้อความไปให้ผู้รับ ทางผู้รับจะถอดรหัสข้อมูล (Decrypt)เพื่อให้ได้ข้อความปกติเหมือนดังที่ส่งมา วัตถุประสงค์ของ Cryptography ก็ เพื่อที่จะปกปิดข้อมูลให้เป็นความลับในระหว่างที่ส่งข้อมูล โดยแม้จะมีผู้แอบลักลอบดูข้อมูลก็ไม่สามารถอ่านข้อความนั้นๆ ได้ เนื่องจากได้เป็นข้อมูลที่อ่านไม่ออกเพราะไม่สามารถถอดรหัสให้อ่านออกได้
9. Private key  
Private key คือ กุญแจส่วนตัว ซึ่งใช้ถอดรหัสข้อมูล ( Decryption เนื่องจากความต้องการที่จะรักษาข้อมูลให้เป็นความลับ จึงต้องมีการแปลงข้อมูลโดยการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption ) เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นสามารถอ่านข้อมูลนั้นได้ โดยให้เฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาต สามารถอ่านเข้าใจได้เท่านั้น 
10. Non-Repudiation
Non-Repudiation คือ วิธีการสื่อสารซึ่งผู้ส่งข้อมูลได้รับหลักฐานว่าได้มีการส่งข้อมูลแล้วและ ผู้รับก็ได้รับการยืนยันว่าผู้ส่งเป็นใคร ดังนั้นในภายหน้าทั้งผู้ส่งและผู้รับจะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่มีความ เกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น