1. Virtual Private Network
Virtual Private Network เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายนอกอาคาร (WAN - Wide Area Network) เป็นระบบเครือข่ายภายในองค์กร ซึ่งเชื่อมเครือข่ายในแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน โดยอาศัย Internetเป็นตัวกลาง มีการทำ Tunneling หรือ
การสร้างอุโมงค์เสมือนไว้รับส่งข้อมูล
มีระบบเข้ารหัสป้องกันการลักลอบใช้ข้อมูล เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
ซึ่งต้องการความคล่องตัวในการติดต่อรับส่งข้อมูลระหว่างสาขา
มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Private Network
2. Public key
Public key คือ
การเข้ารหัสและถอดรหัสโดยใช้กุญแจรหัสคนละตัวกัน
การส่งจะมีกุญแจรหัสตัวหนึ่งในการเข้ารหัส
และผู้รับก็จะมีกุญแจรหัสอีกตัวหนึ่งเพื่อใช้ในการถอดรหัส
ผู้ใช้รายหนึ่งๆจึงมีกุญแจรหัส 2 ค่าเสมอคือ กุญแจสาธารณะ (public key)และ กุญแจส่วนตัว (private key) ผู้
ใช้จะประกาศให้ผู้อื่นทราบถึงกุญแจสาธารณะของตนเองเพื่อให้นำไปใช้ในการเข้า
รหัสและส่งข้อมูลที่เข้ารหัสแล้วมาให้
ข้อมูลที่เข้ารหัสดังกล่าวจะถูกถอดออกได้โดยกุญแจส่วนตัวเท่านั้น
3. Digital Signatures
Digital Signatures หรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมาย
ถึง กลุ่มของตัวเลขกลุ่มหนึ่งซึ่งแสดงความมีตัวตนของบุคคลคนหนึ่ง
(กลุ่มตัวเลขนี้จะมีเลขที่ไม่ซ้ำกับใครเลย)
ซึ่งจะใช้ในการแนบติดไปกับเอกสารใดๆ ก็ตามในรูปแบบของไฟล์
เจตนาก็เพื่อเป็นการยืนยันหรือรับรองข้อความที่ปรากฎอยู่ในไฟล์นั้นๆ
ทำนองเดียวกับการลงลายมือชื่อด้วยหมึกลงบนกระดาษ
เพื่อเป็นการยืนยันหรือรับรองข้อความที่ ปรากฎอยู่บนกระดาษนั่นเอง
4. Decryption
Decryption คือ
การถอดรหัสข้อมูล อย่างข้อมูลที่ถูกใส่รหัสไว้
ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้น
จึงจำเป็นต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาถอดรหัส เพื่อให้สามารถอ่านได้
5. Key pair หรือคู่กุญแจ
Key pair หรือคู่กุญแจ หมาย
ถึง ระบบการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล
โดยผู้ส่งและผู้รับจะมีกุญแจคนละดอกที่ไม่เหมือนกัน
ผู้ส่งใช้กุญแจดอกหนึ่งในการเข้ารหัสข้อมูลที่เรียกว่า กุญแจสาธารณะ (Public key) ส่วนผู้รับใช้กุญแจอีกดอกหนึ่งในการถอดรหัสข้อมูลที่เรียกว่า กุญแจส่วนตัว (Private Key) ซึ่งระบบกุญแจคู่นี้เองเป็นระบบกุญแจพื้นฐานที่นำมาประยุกต์ใช้กับระบบ PKI
6. Decryption
Decryption คือ
การถอดรหัสข้อมูล อย่างข้อมูลที่ถูกใส่รหัสไว้
ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้น
จึงจำเป็นต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาถอดรหัส เพื่อให้สามารถอ่านได้
7. Encryption
Encryption คือ การเข้ารหัส หรือการแปลงข้อมูลให้เป็นรหัสลับ ไม่ให้ข้อมูลความลับนี้ถูกอ่านได้ โดยบุคคลอื่น แต่ให้ถูกอ่านได้โดยบุคคลที่เราต้องการให้อ่านได้เท่านั้น โดยการนำเอาข้อความเดิมที่สามารถอ่านได้ (Plain text,Clear Text) มาทำการเข้ารหัสก่อน เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อความเดิมให้ไปเป็นข้อความที่เราเข้ารหัส (Ciphertext) ก่อน
ที่จะส่งต่อไปให้บุคคลที่เราต้องการที่จะติดต่อด้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นสามารถที่จะแอบอ่านข้อความที่ส่งมาโดยที่ข้อ
ความที่เราเข้ารหัสแล้วซึ่งทำได้โดยใช้โปรแกรม
8. Cryptography
Cryptography หรือ ระบบการรหัส หมายถึง ระบบที่ผู้ส่งข้อความเข้ารหัส (Encrypt) เปลี่ยนแปลงข้อมูล จากข้อความปกติ (Plain Text) ไปเป็นข้อความที่เข้ารหัส (Cipher text) หลังจากนั้นจึงส่งข้อความไปให้ผู้รับ ทางผู้รับจะถอดรหัสข้อมูล (Decrypt)เพื่อให้ได้ข้อความปกติเหมือนดังที่ส่งมา วัตถุประสงค์ของ Cryptography ก็
เพื่อที่จะปกปิดข้อมูลให้เป็นความลับในระหว่างที่ส่งข้อมูล
โดยแม้จะมีผู้แอบลักลอบดูข้อมูลก็ไม่สามารถอ่านข้อความนั้นๆ ได้
เนื่องจากได้เป็นข้อมูลที่อ่านไม่ออกเพราะไม่สามารถถอดรหัสให้อ่านออกได้
9. Private key
Private key คือ กุญแจส่วนตัว ซึ่งใช้ถอดรหัสข้อมูล ( Decryption ) เนื่องจากความต้องการที่จะรักษาข้อมูลให้เป็นความลับ จึงต้องมีการแปลงข้อมูลโดยการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption ) เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นสามารถอ่านข้อมูลนั้นได้ โดยให้เฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาต สามารถอ่านเข้าใจได้เท่านั้น
10. Non-Repudiation
Non-Repudiation คือ
วิธีการสื่อสารซึ่งผู้ส่งข้อมูลได้รับหลักฐานว่าได้มีการส่งข้อมูลแล้วและ
ผู้รับก็ได้รับการยืนยันว่าผู้ส่งเป็นใคร
ดังนั้นในภายหน้าทั้งผู้ส่งและผู้รับจะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่มีความ
เกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น